รับติดแบนเนอร์ราคาถูก รับติดป้ายโฆษณา
Lao Free Classified ສູນຮວມສິນຄ້າສປປ.ລາວ-ໄທ ລົງໂຄສະນາຟຣີ ຂາຍເຄື່ອງຟຣີ ໂປໂໝດເວັບຟຣີ ປະກາດຫາວຽກຟຣີ
โปรโมทเว็บ, รับโฆษณาสินค้า

อุปกรณ์ออกบูธ

รับติดตั้งตาข่ายกันนก โปรโมทเว็บ รับประกันติด google หน้า 1 รับทำ SEO ราคาถูก รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ อบรมปั้นจั่น

ไนโตรเจนเหลว รับติดแบนเนอร์ รับจ้างโพสต์เว็บ รับโพสเว็บ โปรโมทเว็บ โฆษณาสินค้า ราคาถูก ตอกเสาเข็ม, ขายเสาเข็ม, ขายแผ่นพื้น, ปั้นจั่น, รับผลิตเสาเข็ม รับติดแบนเนอร์ รับทำseoราคาถูก, รับดันอันดับเว็บ, รับโปรโมทเว็บราคาถูก

รับทำSEOราคาถูก รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับโพสเว็บราคาถูก รับจ้างโฆษณาสินค้าราคาถูก

รับทำseoราคาถูก, รับโปรโมทเว็บไซต์, รับดันอันดับเว็บไซต์, รับทำเว็บไซต์, ออกแบบเว็บไซต์ราคาถูก, รับประกันติดgoogle

**ประกาศ!! เนื่องจากต้นทุนค่าโฮสติ้งสูงขึ้นมาก รบกวนสมาชิกใหม่(สมัครใหม่จะยังไม่อนุมัติ จนกว่าจะโอน) และเก่า(ทุกUserจะโดนลบ หากไม่โอนช่วย)
โอนช่วยค่าโฮส ปีละ 200 บาท ด้วยนะครับ ติดต่อ Add Line : @posthitz ขอบคุณมากครับ

ສະແດງກະທູ້

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - saibennn9

ໜ້າ: [1] 2 3 ... 8
1
โจทก์ฟ้องและแก้ไขฟ้องขอให้ลงโทษผู้ถูกฟ้องคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 กับให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืน 8,068,325.96 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 7,293,402 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่ผู้ฟ้องคดี ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่า คดีมีมูล ให้ประทับฟ้องจำเลยให้การปฏิเสธและไม่ให้การในคดีส่วนแพ่งศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมในคดีส่วนแพ่งให้เป็นพับผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรคหนึ่ง (เดิม) จำคุก 1 ปี กับให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืน 5,339,180 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2558 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่ผู้ฟ้องคดี ทั้งนี้ดอกเบี้ยคิดถึงวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 28 เมษายน 2560) ต้องมิเกินระยะเวลา 1 ปี 5 เดือน ตามที่ผู้ฟ้องคดีขอ ค่าฤชาธรรมเนียมในคดีส่วนแพ่งชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับโจทก์และผู้ถูกฟ้องคดีฎีกาศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความมิโต้เถียงกันชั้นฎีกาฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2558 เวลากลางวัน นายสมชาย จำเลยในคดีหมายเลขดำที่ 4226/2558 ของศาลชั้นต้น เข้าไปในบ้านเลขที่ 232 อันเป็นเคหสถานของผู้ฟ้องคดี แล้วลักทองคำแท่ง หนักแท่งละ 10 บาท 20 แท่ง หนักแท่งละ 20 บาท 4 แท่ง และหนักแท่งละ 5 บาท 2 แท่ง สร้อยคอทองคำฝังเพชรและต่างหูเพชร 1 ชุด แหวนเพชร 1 วง สร้อยคอทองคำสองกษัตริย์ 1 เส้น สร้อยคอทองคำลายกระดูกงู 2 เส้น และธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับละ 1,000 บาท 100 ฉบับ ที่เก็บไว้ในบ้านดังกล่าวไป จากนั้นนายสมชายร่วมกับนายวัชรินทร์ ผู้ถูกฟ้องคดีในคดีหมายเลขดำที่ 647/2559 ของศาลชั้นต้น ทำการสกัดทองคำแท่งที่ลักมาและหลอม เป็นทองก้อนที่โรงงานหลอมทองของนายวัชรินทร์ที่ตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร วันรุ่งขึ้นนายสมชายกับนายวัชรินทร์นำทองคำที่หลอมแล้วไปขายให้แก่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ห้างขายทองไล้เซ่งเฮงของนางมณี มารดาจำเลย ซึ่งผู้ถูกฟ้องคดีเป็นผู้ดูแลกิจการ ในราคา 5,339,180 บาท ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมนายสมชายกับนายวัชรินทร์ดำเนินคดี ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษนายสมชายข้อหาลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใด ๆ โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยมิได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ทำให้เสียทรัพย์ และบุกรุก และศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษนายวัชรินทร์ข้อหารับของโจรคดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ถูกฟ้องคดีว่า จำเลยกระทำความผิดตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์หรือไม่ เห็นว่า ในคดีความผิดข้อหารับของโจรนั้น ผู้ฟ้องคดีมีหน้าที่ต้องนำสืบให้เห็นว่า จำเลยซื้อทองคำดังกล่าวไว้โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิด มิใช่ว่าเมื่อผู้ถูกฟ้องคดีเป็นผู้ครอบครองทองคำดังกล่าวแล้ว จำเลยต้องนำสืบแก้ตัวว่าตนมิรู้ว่าเป็นของที่ได้มาจากการกระทำความผิด ดังนั้น ลำพังพฤติการณ์ที่ได้ความว่า ผู้ถูกฟ้องคดีรับซื้อทองคำที่มีการหลอมมาก่อนเป็นจำนวนมากก็มิอาจรับฟังได้ถึงขนาดที่ว่าจำเลยซื้อทองคำดังกล่าวโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์ที่ได้จากการกระทำความผิดข้อหาลักทรัพย์ เนื่องจากผู้ถูกฟ้องคดีเป็นผู้ดูแลห้างขายทองไล้เซ่งเฮงของนางมณีซึ่งได้รับอนุญาตให้ประกอบอาชีพค้าของเก่า ประเภทเพชร ทอง การที่ผู้ถูกฟ้องคดีรับซื้อทองคำจากนายวัชรินทร์เป็นจำนวนมากดังกล่าวดังนั้นจึงมิใช่เรื่องผิดปกติทางการค้าของผู้ถูกฟ้องคดี ประกอบกับการซื้อขายทองคำดังกล่าวกระทำโดยเปิดเผยในเวลาทำการของร้าน โดยไม่มีการปิดบังหรือซุกซ่อนแต่อย่างใด ทั้งยังได้ความว่านายวัชรินทร์มีอาชีพหลอมทองและมีโรงงานหลอมทองเป็นของตัวเอง ก่อนเกิดเหตุนายวัชรินทร์นำทองคำไปให้จำเลยตรวจสอบความบริสุทธิ์ของทองคำที่ร้านของจำเลยเป็นประจำโดยนายวัชรินทร์เบิกความตอบทนายผู้ถูกฟ้องคดีถามค้านว่า ขณะนำทองคำไปขายให้แก่จำเลยนั้น พยานอ้างแก่ผู้ถูกฟ้องคดีว่าเป็นทองคำที่พยานสะสมไว้ นอกจากนี้ยังได้ความจากร้อยตำรวจเอกดำรงศักดิ์ พนักงานสอบสวน เบิกความตอบทนายผู้ถูกฟ้องคดีถามค้านว่า การที่จำเลยรับซื้อทองคำในคดีนี้นั้นเป็นราคาตามท้องตลาดซึ่งเป็นไปตามที่สมาคมค้าทองคำระบุไว้โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการระบุรายละเอียดการซื้อขายทองคำดังกล่าวไว้ในสมุดบัญชีคุมรายการขายทอดตลาดและค้าของเก่า รวมทั้งมีการจัดทำหลักฐานใบรับซื้อทองเก่าที่แนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของนายวัชรินทร์ไว้ ข้อเท็จจริงดังนั้นจึงเชื่อว่าผู้ถูกฟ้องคดีรับซื้อทองคำของโจทก์ไว้โดยไม่รู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดข้อหาลักทรัพย์ ดังนี้ นอกจากพยานหลักฐานผู้ฟ้องคดีดังกล่าวข้างต้นแล้ว ผู้ฟ้องคดีมิมีพยานอื่นใดมาสืบสนับสนุนเพื่อพิสูจน์ความผิดของจำเลย พยานหลักฐานโจทก์เท่าที่นำสืบมาดังนั้นจึงมีน้ำหนักน้อย และรูปคดียังมีความสงสัยตามสมควรว่าผู้ถูกฟ้องคดีกระทำผิดข้อหารับของโจรหรือไม่ ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้ผู้ถูกฟ้องคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 วรรคสอง ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของผู้ถูกฟ้องคดีฟังขึ้น คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยต่อไปตามฎีกาของผู้ถูกฟ้องคดีว่า ผู้ถูกฟ้องคดีต้องคืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่ผู้ฟ้องคดีหรือมิ และตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยต้องใช้ราคาทรัพย์แก่ผู้ฟ้องคดีเพียงใด ซึ่งเห็นสมควรวินิจฉัยไปในคราวเดียวกัน และเห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าทองคำที่จำเลยรับซื้อไว้จากนายวัชรินทร์เป็นของผู้ฟ้องคดี ผู้ถูกฟ้องคดีดังนั้นจึงไม่ได้กรรมสิทธิ์ในทองคำ เพราะผู้ขายมิมีกรรมสิทธิ์ในทองคำนั้น ตามหลักที่ว่าผู้รับโอนมิมีสิทธิดีกว่าผู้โอน ผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นเจ้าของที่แท้จริงย่อมมีสิทธิติดตามเอาทองคำดังกล่าวคืนจากผู้มิมีสิทธิจะยึดถือไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336 แม้ห้างขายทองไล้เซ่งเฮงของจำเลยจะอยู่ในชุมชนการค้า แต่ผู้ถูกฟ้องคดีรับซื้อทองคำจากนายวัชรินทร์ที่นำมาขายให้ที่ห้างขายทองของผู้ถูกฟ้องคดี โดยมิได้ซื้อจากร้านค้าใดร้านค้าหนึ่งในชุมชนการค้านั้น การที่ผู้ถูกฟ้องคดีซื้อไว้โดยสุจริตและไม่เป็นความผิดฐานรับของโจรดังที่วินิจฉัยมา ก็ถือมิได้ว่าจำเลยซื้อทองคำในท้องตลาดอันจะได้รับความคุ้มครองด้วยการยึดถือไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1332 ผู้ถูกฟ้องคดีฉะนั้นจึงต้องคืนทองคำดังกล่าวแก่โจทก์ แต่ที่โจทก์มีคำขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีใช้ราคาทองคำเป็นเงิน 7,293,402 บาท ส่วนผู้ถูกฟ้องคดีอ้างว่ารับซื้อทองคำไว้ในราคาเพียง 5,339,180 บาท นั้น เห็นว่า วัตถุแห่งหนี้ที่จำเลยต้องชำระแก่ผู้ฟ้องคดีได้แก่ทองคำที่ผู้ถูกฟ้องคดีรับซื้อไว้ ซึ่งได้ความจากทางนำสืบของผู้ถูกฟ้องคดีว่า ผ่านการสกัดและหลอม มีความบริสุทธิ์ 99.3 เปอร์เซ็นต์ น้ำหนัก 4,308.2 กรัม จะกลายเป็นหนี้เงินได้ก็ต่อเมื่อการคืนทองคำดังกล่าวแก่โจทก์เป็นการพ้นวิสัย หาใช่คิดคำนวณราคาในเวลาที่จำเลยรับซื้อจากนายวัชรินทร์ดังที่ผู้ฟ้องคดีและผู้ถูกฟ้องคดีกล่าวอ้างแต่อย่างใดมิ เมื่อมิปรากฏว่า การปฏิบัติการชำระหนี้ด้วยการคืนทองคำเป็นการพ้นวิสัยตั้งแต่เมื่อใด จึงกำหนดให้ใช้ราคาพร้อมดอกเบี้ยโดยคำนวณในขณะที่โจทก์ร้องขอให้ชำระหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 213 อันได้แก่วันฟ้อง แต่เนื่องจากราคาซื้อขายทองคำในแต่ละวันมีการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะ ดังนั้นจึงกำหนดราคาให้ตามราคาขายโดยเฉลี่ยของสมาคมค้าทองคำในวันดังกล่าวอนึ่ง คดีนี้เป็นคดีอาญา จำเลยมิต้องเสียค่าธรรมเนียมศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 252 แต่ผู้ถูกฟ้องคดีฎีกาโดยเสียค่าขึ้นศาลมา 118,230 บาท จึงให้คืนค่าขึ้นศาลดังกล่าวแก่จำเลยพิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับความผิดฐานรับของโจร แต่ให้ผู้ถูกฟ้องคดีคืนทองคำมีความบริสุทธิ์ 99.3 เปอร์เซ็นต์ น้ำหนัก 4,308.2 กรัม แก่ผู้ฟ้องคดี หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาทองคำดังกล่าวตามราคาขายโดยเฉลี่ยของสมาคมค้าทองคำในวันฟ้อง (วันที่ 28 เมษายน 2560) แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 7,293,402 บาท ตามที่ผู้ฟ้องคดีขอ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับคืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกา 118,230 บาท แก่ผู้ถูกฟ้องคดี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกานอกจากที่สั่งคืนให้เป็นพับ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทนายเชียงใหม่

เครดิตบทความจาก : https://www.xn--42cgi4cjab1btnchd1exbza5gvad6dvnqc6f.com/

Tags : ทนายเชียงใหม่,ทนายความเชียงใหม่,ทนายเชียงใหม่

2
โจทก์ทั้งสองได้ใช้ลำรางพิพาทซึ่งอยู่ในที่ดินของจำเลยที่ 2 ต่อจากบิดาของผู้ฟ้องคดีทั้งสองโดยสงบ เปิดเผย และด้วยเจตนาจะได้ภาระจำยอมในลำรางพิพาทติดต่อกันมาเป็นเวลากว่า 10 ปี ที่ดินของจำเลยที่ 2 เฉพาะส่วนที่เป็นลำรางพิพาทจึงตกเป็นภาระจำยอมแก่ที่ดินของผู้ฟ้องคดีทั้งสองโดยอายุความ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382, 1401 แม้ที่ดินของโจทก์ทั้งสองสามารถรับน้ำได้จากคลองด้วยก็ไม่ทำให้ภาระจำยอมดังกล่าวสิ้นไป เพราะภาระจำยอมที่ได้มาโดยอายุความจะสิ้นไปก็ต่อเมื่อผู้ฟ้องคดีทั้งสองมิได้ใช้ 10 ปี ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1399 เท่านั้น
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทนายเชียงใหม่

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : https://www.xn--42cgi4cjab1btnchd1exbza5gvad6dvnqc6f.com/

Tags : ทนายเชียงใหม่,ทนายความเชียงใหม่,ทนายเชียงใหม่

3
โจทก์ทั้งสองได้ใช้ลำรางพิพาทซึ่งอยู่ในที่ดินของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ต่อจากบิดาของผู้ฟ้องคดีทั้งสองโดยสงบ เปิดเผย และด้วยเจตนาจะได้ภาระจำยอมในลำรางพิพาทติดต่อกันมาเป็นเวลากว่า 10 ปี ที่ดินของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 เฉพาะส่วนที่เป็นลำรางพิพาทจึงตกเป็นภาระจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์ทั้งสองโดยอายุความ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382, 1401 แม้ที่ดินของผู้ฟ้องคดีทั้งสองสามารถรับน้ำได้จากคลองด้วยก็ไม่ทำให้ภาระจำยอมดังกล่าวสิ้นไป เพราะภาระจำยอมที่ได้มาโดยอายุความจะสิ้นไปก็ต่อเมื่อผู้ฟ้องคดีทั้งสองมิได้ใช้ 10 ปี ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1399 เท่านั้น
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทนายเชียงใหม่

เครดิต : https://www.xn--42cgi4cjab1btnchd1exbza5gvad6dvnqc6f.com/

Tags : ทนายเชียงใหม่,ทนายความเชียงใหม่,ทนายเชียงใหม่

4
ผู้ฟ้องคดีทั้งสองได้ใช้ลำรางพิพาทซึ่งอยู่ในที่ดินของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ต่อจากบิดาของโจทก์ทั้งสองโดยสงบ เปิดเผย และด้วยเจตนาจะได้ภาระจำยอมในลำรางพิพาทติดต่อกันมาเป็นเวลากว่า 10 ปี ที่ดินของจำเลยที่ 2 เฉพาะส่วนที่เป็นลำรางพิพาทจึงตกเป็นภาระจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์ทั้งสองโดยอายุความ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382, 1401 แม้ที่ดินของโจทก์ทั้งสองสามารถรับน้ำได้จากคลองด้วยก็ไม่ทำให้ภาระจำยอมดังกล่าวสิ้นไป เพราะภาระจำยอมที่ได้มาโดยอายุความจะสิ้นไปก็ต่อเมื่อผู้ฟ้องคดีทั้งสองมิได้ใช้ 10 ปี ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1399 เท่านั้น
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทนายเชียงใหม่

เครดิต : https://www.xn--42cgi4cjab1btnchd1exbza5gvad6dvnqc6f.com/

Tags : ทนายเชียงใหม่,ทนายเชียงใหม่

5
ย. ตกลงขายและส่งมอบการครอบครองที่ดินพิพาทให้พันเอก พ. เมื่อปี 2519 ต่อมาปี 2520 เมื่อมีการเดินสำรวจออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดินพิพาท แต่เนื่องจากติดข้อกำหนดที่ห้ามมิให้ผู้ได้มาซึ่งสิทธิในที่ดินดังกล่าวโอนที่ดินนั้นให้แก่ผู้อื่นภายใน 10 ปี ตามมาตรา 58 ทวิ แห่ง ป.ที่ดิน ย. และพันเอก พ. จึงทำสัญญาจำนองโดยไม่มีการกู้ยืมเงินจริง แต่ทำเพื่ออำพรางเอกสารสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทที่ยังไม่อาจโอนสิทธิในที่ดินได้เพราะมีข้อกำหนดห้ามโอนภายใน 10 ปี ตาม ป.ที่ดิน มาตรา 58 ทวิ เอกสารสัญญาจำนองดังนั้นจึงเป็นนิติกรรมอำพราง ตกเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ. มาตรา 155 เมื่อเอกสารสัญญาจำนองเป็นโมฆะ ผู้ฟ้องคดีฉะนั้นจึงไม่อาจฟ้องบังคับไถ่ถอนจำนองที่ดินพิพาทจากผู้ถูกฟ้องคดีได้การทำบันทึกข้อสัญญาการซื้อขายที่ดินพิพาทจึงเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดตามกฎหมาย เป็นนิติกรรมที่มีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามโดยชัดแจ้งโดยกฎหมาย ดังนั้นจึงตกเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ. มาตรา 150 ดังนั้น การที่ ย. ทำบันทึกข้อสัญญาการซื้อขายและมอบให้พันเอก พ. ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาท พันเอก พ. ก็หาได้สิทธิครอบครองตามกฎหมายไม่เพราะอยู่ในกำหนดห้ามโอนตามกฎหมาย อย่างไรบ้างก็ตาม เมื่อพ้นระยะเวลาห้ามโอนคือวันที่ 24 สิงหาคม 2530 พันเอก พ. และทายาทครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทอย่างต่อเนื่องและเป็นผู้ชำระภาษีบำรุงท้องที่มาโดยตลอดตั้งแต่ พ.ศ.2528 ถึง พ.ศ.2559 โดยไม่ปรากฏว่า ย. หรือทายาทเข้าไปยุ่งเกี่ยวในที่ดินพิพาทในช่วงระยะเวลาดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า ย. หรือทายาทได้สละการครอบครองที่พิพาทให้แก่พันเอก พ. แล้ว ย่อมถือว่าพันเอก พ. ได้เข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทโดยเจตนายึดถือเพื่อตนต่อแต่นั้นมา พันเอก พ. ย่อมได้ไปซึ่งสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทตาม ป.พ.พ.มาตรา 1367 โดยไม่จำต้องจดทะเบียนการได้มา
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทนายความเชียงใหม่

เครดิต : https://www.xn--42cgi4cjab1btnchd1exbza5gvad6dvnqc6f.com/

Tags : ทนายเชียงใหม่,ทนายความเชียงใหม่,ทนายเชียงใหม่

6
ย. ตกลงขายและส่งมอบการครอบครองที่ดินพิพาทให้พันเอก พ. เมื่อปี 2519 ต่อมาปี 2520 เมื่อมีการเดินสำรวจออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดินพิพาท แต่เนื่องจากติดข้อกำหนดที่ห้ามมิให้ผู้ได้มาซึ่งสิทธิในที่ดินดังกล่าวโอนที่ดินนั้นให้แก่ผู้อื่นภายใน 10 ปี ตามมาตรา 58 ทวิ แห่ง ป.ที่ดิน ย. และพันเอก พ. ดังนั้นจึงทำบันทึกข้อสัญญาจำนองโดยไม่มีการกู้ยืมเงินจริง แต่ทำเพื่ออำพรางบันทึกข้อสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทที่ยังไม่อาจโอนสิทธิในที่ดินได้เพราะมีข้อกำหนดห้ามโอนภายใน 10 ปี ตาม ป.ที่ดิน มาตรา 58 ทวิ บันทึกข้อสัญญาจำนองจึงเป็นนิติกรรมอำพราง ตกเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ. มาตรา 155 เมื่อเอกสารสัญญาจำนองเป็นโมฆะ ผู้ฟ้องคดีดังนั้นจึงไม่อาจฟ้องบังคับไถ่ถอนจำนองที่ดินพิพาทจากจำเลยได้การทำบันทึกข้อสัญญาการซื้อขายที่ดินพิพาทฉะนั้นจึงเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดตามกฎหมาย เป็นนิติกรรมที่มีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามโดยชัดแจ้งโดยกฎหมาย ดังนั้นจึงตกเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ. มาตรา 150 ดังนั้น การที่ ย. ทำบันทึกข้อสัญญาการซื้อขายและมอบให้พันเอก พ. ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาท พันเอก พ. ก็หาได้สิทธิครอบครองตามกฎหมายไม่เพราะอยู่ในกำหนดห้ามโอนตามกฎหมาย อย่างไรบ้างก็ตาม เมื่อพ้นระยะเวลาห้ามโอนคือวันที่ 24 สิงหาคม 2530 พันเอก พ. และทายาทครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทอย่างต่อเนื่องและเป็นผู้ชำระภาษีบำรุงท้องที่มาโดยตลอดตั้งแต่ พ.ศ.2528 ถึง พ.ศ.2559 โดยไม่ปรากฏว่า ย. หรือทายาทเข้าไปยุ่งเกี่ยวในที่ดินพิพาทในช่วงระยะเวลาดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า ย. หรือทายาทได้สละการครอบครองที่พิพาทให้แก่พันเอก พ. แล้ว ย่อมถือว่าพันเอก พ. ได้เข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทโดยเจตนายึดถือเพื่อตนต่อแต่นั้นมา พันเอก พ. ย่อมได้ไปซึ่งสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทตาม ป.พ.พ.มาตรา 1367 โดยไม่จำต้องจดทะเบียนการได้มา
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทนายเชียงใหม่

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : https://www.xn--42cgi4cjab1btnchd1exbza5gvad6dvnqc6f.com/

Tags : ทนายเชียงใหม่,ทนายความเชียงใหม่,ทนายเชียงใหม่

7
ย. ตกลงขายและส่งมอบการครอบครองที่ดินพิพาทให้พันเอก พ. เมื่อปี 2519 ต่อมาปี 2520 เมื่อมีการเดินสำรวจออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดินพิพาท แต่เนื่องจากติดข้อกำหนดที่ห้ามมิให้ผู้ได้มาซึ่งสิทธิในที่ดินดังกล่าวโอนที่ดินนั้นให้แก่ผู้อื่นภายใน 10 ปี ตามมาตรา 58 ทวิ แห่ง ป.ที่ดิน ย. และพันเอก พ. ฉะนั้นจึงทำสัญญาจำนองโดยไม่มีการกู้ยืมเงินจริง แต่ทำเพื่ออำพรางเอกสารสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทที่ยังไม่อาจโอนสิทธิในที่ดินได้เพราะมีข้อกำหนดห้ามโอนภายใน 10 ปี ตาม ป.ที่ดิน มาตรา 58 ทวิ เอกสารสัญญาจำนองจึงเป็นนิติกรรมอำพราง ตกเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ. มาตรา 155 เมื่อเอกสารสัญญาจำนองเป็นโมฆะ ผู้ฟ้องคดีฉะนั้นจึงไม่อาจฟ้องบังคับไถ่ถอนจำนองที่ดินพิพาทจากจำเลยได้การทำบันทึกข้อสัญญาการซื้อขายที่ดินพิพาทจึงเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดตามกฎหมาย เป็นนิติกรรมที่มีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามโดยชัดแจ้งโดยกฎหมาย ฉะนั้นจึงตกเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ. มาตรา 150 ดังนั้น การที่ ย. ทำสัญญาการซื้อขายและมอบให้พันเอก พ. ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาท พันเอก พ. ก็หาได้สิทธิครอบครองตามกฎหมายไม่เพราะอยู่ในกำหนดห้ามโอนตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เมื่อพ้นระยะเวลาห้ามโอนคือวันที่ 24 สิงหาคม 2530 พันเอก พ. และทายาทครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทอย่างต่อเนื่องและเป็นผู้ชำระภาษีบำรุงท้องที่มาโดยตลอดตั้งแต่ พ.ศ.2528 ถึง พ.ศ.2559 โดยไม่ปรากฏว่า ย. หรือทายาทเข้าไปยุ่งเกี่ยวในที่ดินพิพาทในช่วงระยะเวลาดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า ย. หรือทายาทได้สละการครอบครองที่พิพาทให้แก่พันเอก พ. แล้ว ย่อมถือว่าพันเอก พ. ได้เข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทโดยเจตนายึดถือเพื่อตนต่อแต่นั้นมา พันเอก พ. ย่อมได้ไปซึ่งสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทตาม ป.พ.พ.มาตรา 1367 โดยไม่จำต้องจดทะเบียนการได้มา
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทนายเชียงใหม่

ที่มา : https://www.xn--42cgi4cjab1btnchd1exbza5gvad6dvnqc6f.com/

Tags : ทนายเชียงใหม่,ทนายความเชียงใหม่,ทนายเชียงใหม่

8
ที่ดินของผู้ฟ้องคดีแบ่งแยกมาจากที่ดินของ ส. และ ต. ภายหลังแบ่งแยก ต. ผู้ขายที่ดินให้แก่โจทก์ตกลงยินยอมให้ผู้ฟ้องคดีใช้ทางพิพาทซึ่งตั้งอยู่บนที่ดินของ ต. เป็นทางเข้าออกสู่ถนนสาธารณะ ซึ่งผู้ฟ้องคดีและบริวารก็ได้ใช้ทางพิพาทดังกล่าวตลอดมา การตกลงกันดังกล่าวถือเป็นการทำนิติกรรมก่อตั้งสิทธิภาระจำยอมระหว่างกัน หาใช่เป็นกรณีที่โจทก์ใช้ทางพิพาทโดยอาศัยสิทธิของ ต. หรือโดยวิสาสะมิ ทางพิพาทจึงตกเป็นภาระจำยอมแก่ที่ดินของผู้ฟ้องคดีโดยนิติกรรมดังกล่าว จะเป็นทรัพยสิทธิจะเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ เมื่อโจทก์ยังไม่ได้จดทะเบียนการได้ทางภาระจำยอมต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จึงมิบริบูรณ์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1299 วรรคหนึ่ง แต่ผู้ฟ้องคดีก็อาจได้ภาระจำยอมในทางพิพาทโดยอายุความหากโจทก์ได้ใช้ทางพิพาทโดยเจตนาให้ได้ภาระจำยอมซึ่งต้องพิจารณาจากการใช้ว่า เป็นการใช้โดยอาการที่ถือสิทธิเป็นปรปักษ์ต่อ ต. เจ้าของที่ดินที่ตั้งทางพิพาทคนเดิมและเจ้าของที่ดินคนต่อ ๆ มาหรือมิ
โจทก์ใช้ทางพิพาทโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาให้เป็นทางภาระจำยอมตลอดมา เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว ทางพิพาทย่อมตกเป็นภาระจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์ เมื่อเป็นการได้มาซึ่งภาระจำยอมแล้ว แม้จะเป็นการได้ทรัพยสิทธิจะเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์โดยทางอื่นนอกจากนิติกรรม ก็มิอยู่ในบังคับบทบัญญัติมาตรา 1299 วรรคสอง ดังนั้น ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองจะยกเรื่องการรับโอนที่ดินมาโดยสุจริต เสียค่าตอบแทน และได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตขึ้นเป็นข้อต่อสู้ผู้ฟ้องคดีหาได้มิ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทนายความเชียงใหม่

ขอบคุณบทความจาก : https://www.xn--42cgi4cjab1btnchd1exbza5gvad6dvnqc6f.com/

Tags : ทนายความเชียงใหม่

9
โจทก์มีพฤติการณ์ส่อว่าจะมีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับผู้หญิงอื่น จำเลยหึงหวงเป็นเหตุให้ทะเลาะกันมาโดยตลอด ณ. พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกับโจทก์เคยมาขอยืมเงินโจทก์ไปแล้วยังใช้คืนไม่หมด ต่อมา ณ. ขอให้โจทก์นำที่ดินไปจดทะเบียนจำนองเพื่อนำเงินยืมเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายเดินทางไปทำงานต่างประเทศอีก แต่จำเลยมิยอมลงชื่อให้ความยินยอมในการจดทะเบียนจำนอง จึงเกิดทะเลาะกัน โจทก์จำเลยเขียนบันทึกโต้ตอบกันโดยโจทก์ด่าจำเลยก่อนว่าโจทก์กับจำเลยเป็นบุคคลคนละชั้นกัน จำเลยจึงลำเลิกบุญคุณด่ากลับทำนองว่าโดยเลี้ยงดูส่งเสียโจทก์มาก่อน การที่จำเลยพูดห้ามบุตรสาวจำเลยไม่ให้เข้าใกล้โจทก์และว่าไอ้คนนี้ถ้าคลำมิมีหางมันเอาหมดนั้น เป็นการกระทำไปโดยเจตนาเตือนให้บุตรสาวระมัดระวังตัวไว้ เพียงแต่ใช้ถ้อยคำอันมิสมควรเยี่ยงมารดาทั่วไปเท่านั้น นอกจากนี้ การที่จำเลยพูดว่าทำนองเหยียดหยามโจทก์และมารดาโจทก์เกิดจากโจทก์และมารดาโจทก์มีส่วนร่วมก่อให้จำเลยกระทำการดังกล่าวอยู่มาก จึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยเหยียดหยามโจทก์และมารดาโจทก์อย่างร้ายแรงอันโจทก์จะอ้างเป็นเหตุฟ้องหย่าได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1516 (3)
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทนายเชียงใหม่

ที่มา : https://www.xn--42cgi4cjab1btnchd1exbza5gvad6dvnqc6f.com/

Tags : ทนายเชียงใหม่

10
ในขณะที่ลูกหนี้มีชีวิตอยู่  ลูกหนี้ได้ทำสัญญากับเจ้าหนี้  ไม่ว่าจะเป็นสัญญากู้  สัญญาเช่า  สัญญาอื่นๆ หรือแม้แต่หนี้อันเกิดจากการกระทำละเมิด  เมื่อลูกหนี้ตาย  เจ้าหนี้จะต้องฟ้องคดีกับลูกหนี้  เพราะหากไม่ฟ้องคดีกับลูกหนี้ภายใน  ๑  ปี แล้ว  หนี้ของเจ้าหนี้รายนั้นย่อมขาดอายุความ  เหตุผลจะเป็นประการ  และมีคำพิพากษาและหลักกฎหมายอย่างไร  ขอให้ท่านอยู่อ่านโปรดคลิกเข้าอ่านยังบทความนี้  

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nopnapatlaw99&month=09-05-2020&group=1&gblog=37


11
การทำพิินัยกรรมยกทรัพย์มรดกของตนนั้น  จะยกทรัพย์มรดกของตนเกินส่วนของตนไม่ได้  มีผลทำให้พินัยกรรมนั้นสมบุรณ์  แต่เฉพาะที่ตนมีส่วนกรรมสิทธิ์เท่านั้น  มีเหตุผลอย่างไรของให้ท่านอ่านจากบทความนี้

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nopnapatlaw99&month=07-05-2020&group=1&gblog=36

12
หลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินนั้น  ไม่จำเป็นต้องเป็นเอกสารเท่าไหร่  อาจจะมาในรูปแบบอย่างใดๆ  ก็ได้  เพียงแค่ให้ได้ความว่า  มีจำนวนเงินเท่าไหร่และจำนำมาคืนให้  ก็เป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินได้แล้ว  ดังนั้น  ใบสมัครสินเชื่อจึงเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงิน  ส่วนเหตุผลจะเป็นอย่างไร  ท่านสามารถอ่า่นได้จากบทความนี้  ได้

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nopnapatlaw99&month=04-05-2020&group=1&gblog=33


13
ในขณะที่ลูกหนี้มีชีวิตอยู่  ลูกหนี้ได้ทำสัญญากับเจ้าหนี้  ไม่ว่าจะเป็นสัญญากู้  สัญญาเช่า  สัญญาอื่นๆ หรือแม้แต่หนี้อันเกิดจากการกระทำละเมิด  เมื่อลูกหนี้ตาย  เจ้าหนี้จะต้องฟ้องคดีกับลูกหนี้  เพราะหากไม่ฟ้องคดีกับลูกหนี้ภายใน  ๑  ปี แล้ว  หนี้ของเจ้าหนี้รายนั้นย่อมขาดอายุความ  เหตุผลจะเป็นประการ  และมีคำพิพากษาและหลักกฎหมายอย่างไร  ขอให้ท่านอยู่อ่านโปรดคลิกเข้าอ่านยังบทความนี้  

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nopnapatlaw99&month=09-05-2020&group=1&gblog=37


14
การทำพิินัยกรรมยกทรัพย์มรดกของตนนั้น  จะยกทรัพย์มรดกของตนเกินส่วนของตนไม่ได้  มีผลทำให้พินัยกรรมนั้นสมบุรณ์  แต่เฉพาะที่ตนมีส่วนกรรมสิทธิ์เท่านั้น  มีเหตุผลอย่างไรของให้ท่านอ่านจากบทความนี้

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nopnapatlaw99&month=07-05-2020&group=1&gblog=36

15
ในขณะที่ลูกหนี้มีชีวิตอยู่  ลูกหนี้ได้ทำสัญญากับเจ้าหนี้  ไม่ว่าจะเป็นสัญญากู้  สัญญาเช่า  สัญญาอื่นๆ หรือแม้แต่หนี้อันเกิดจากการกระทำละเมิด  เมื่อลูกหนี้ตาย  เจ้าหนี้จะต้องฟ้องคดีกับลูกหนี้  เพราะหากไม่ฟ้องคดีกับลูกหนี้ภายใน  ๑  ปี แล้ว  หนี้ของเจ้าหนี้รายนั้นย่อมขาดอายุความ  เหตุผลจะเป็นประการ  และมีคำพิพากษาและหลักกฎหมายอย่างไร  ขอให้ท่านอยู่อ่านโปรดคลิกเข้าอ่านยังบทความนี้  

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nopnapatlaw99&month=09-05-2020&group=1&gblog=37


ໜ້າ: [1] 2 3 ... 8
รับทำseoราคาถูก, รับโปรโมทเว็บไซต์, รับดันอันดับเว็บไซต์, รับทำเว็บไซต์, ออกแบบเว็บไซต์ราคาถูก, รับประกันติดgoogle

ลงประกาศฟรี ลงประกาศฟรี ลงประกาศฟรี

ບໍລິການ ລົງໂຄສະນາ ເພິ່ມຍອດຂາຍ ຂະຫຍາຍລາຍຮັບ