อยากรู้เคล็ดลับมาทางนี้ กู้ซื้อบ้าน อย่างไรให้ได้ดอกเบี้ยน้อย ผ่อนหมดไวแบบที่มือใหม่ก็ทำได้
วันนี้เราจึงมาเปิดเผยเคล็ดลับของการ
กู้เงินทำธุรกิจ การ กู้ซื้อบ้าน ว่าควรเตรียมตัวอย่างไรให้กู้ผ่าน เลือก สินเชื่อบ้าน อย่างไรให้ได้ดอกเบี้ยต่ำ รวมถึงเทคนิคการ ผ่อนบ้าน ที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน
เตรียมตัวให้พร้อมก่อน กู้เงินซื้อบ้าน
เมื่อ สินเชื่อบ้าน เป็นสินเชื่อระยะยาวและอาจยาวนานถึง 30 ปี ธนาคารจึงจำเป็นต้องใช้ปัจจัยร่วมหลายอย่างในการพิจารณาให้สินเชื่อ โดยทั่วไปหากผู้กู้เป็นพนักงานบริษัทเอกชนก็ควรมีอายุงานมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป มีรายได้ราว 10,000 – 15,000 บาทต่อเดือน และมีอายุอยู่ในระหว่าง 20 – 40 ปี ยิ่งไปกว่านั้นผู้กู้ยังควรมีประวัติการเงินดี ผู้วางแผนกู้เงินเพื่อซื้อบ้านควรชำระหนี้ต่าง ๆ ตรงเวลา ไม่สร้างประวัติเสียให้ตนเอง และไม่ควรสมัครบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดมาถือไว้เป็นจำนวนหลายใบเกินไป เนื่องจากสถาบันการเงินบางแห่งอาจใช้บัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดเหล่านั้นมาคำนวณเป็นภาระหนี้ของเรา ทำให้โอกาสการกู้ผ่านลดน้อยลงได้ สรุปง่าย ๆ ว่าผู้กู้ควรพิสูจน์ตัวเองให้สถาบันการเงินเห็นว่าตนเองมีรายได้มั่นคง มีอายุงานนานมากพอ และมีคุณสมบัติครบถ้วน สามารถชำระหนี้บ้านได้อย่างแน่นอนนั่นเอง
เปรียบเทียบดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารก่อนตัดสินใจกู้เงินเพื่อซื้อบ้าน
สถาบันการเงินแต่ละแห่งมีนโยบายแตกต่างกันไปทำให้บางแห่งพิจารณาอนุมัติเงินกู้ง่ายกว่า เร็วกว่า แต่ก็ต้องแลกมาด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า ในขณะที่บางแห่งอาจใช้หลักเกณฑ์ในการพิจารณามากกว่าสักหน่อย หรือใช้เวลามากขึ้นอีก 1 - 2 วันทำการ แต่ให้อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าในระยะยาว ดังนั้นการเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย รวมถึงหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ระหว่างสถาบันการเงินหลาย ๆ แห่งจึงถือเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้เราจะได้รู้จักกับอัตราดอกเบี้ยคงที่ อัตราดอกเบี้ยลอยตัว และเงื่อนไขการคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกในขั้นตอนนี้เอง ซึ่งโดยทั่วไปการ ผ่อนบ้าน จะได้รับการคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกอยู่แล้ว แต่เพื่อความถูกต้องของข้อมูลผู้กู้ควรสอบถามเกี่ยวกับการคิดอัตราดอกเบี้ยของแต่ละสถาบันการเงินจนกว่าจะเข้าใจได้อย่างถูกต้อง เพื่อนำข้อมูลมาเปรียบเทียบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อยากผ่อนค่าบ้านให้หมดไว ต้องคอยสังเกตอัตราดอกเบี้ยปัจจุบัน
การผ่อนเกินค่างวด การโปะค่าบ้าน ทั้ง 2 ข้อนี้มีส่วนช่วยทำให้การผ่อนบ้านหมดไวกว่าเวลาที่กำหนดในสัญญาก็จริง แต่สิ่งที่ช่วยได้มากไม่แพ้กันคือการขอลดดอกเบี้ย (Retention) ทุกครั้งที่ถึงรอบเวลา หรือการรีไฟแนนซ์ไปยังสถาบันการเงินที่ให้ดอกเบี้ยต่ำกว่าเมื่อมีโอกาส ก่อนอื่นผู้กู้ควรทราบรอบเวลาในสัญญากู้ก่อนว่าตัวสัญญากำหนดให้สามารถรีไฟแนนซ์หรือขอลดดอกเบี้ยได้เมื่อผ่อนชำระครบ 3 ปีแล้ว หรือกำหนดไว้เป็นจำนวนกี่ปี เพราะเมื่อครบรอบปีที่กำหนดผู้กู้จะมีสิทธิ์ดำเนินการขอลดดอกเบี้ยกับธนาคารเดิม (Retention) และสามารถรีไฟแนนซ์ไปยังสถาบันการเงินอื่นได้โดยไม่เสียค่าปรับเพื่อรับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าได้ ซึ่งการสังเกตและลงมือดำเนินการเกี่ยวกับดอกเบี้ยในทุกรอบเวลาแบบนี้จะทำให้ผู้กู้ได้รับดอกเบี้ยต่ำและได้ค่างวดที่ไม่สูงจนเกินไปอยู่เสมอ ช่วยลดระยะเวลาการผ่อนค่าบ้านได้อีกทางหนึ่ง
หากจะให้แนะนำสถาบันการเงินที่มักจะปล่อยสินเชื่อกู้ซื้อบ้านด้วยวงเงินสูง คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ หนึ่งในนั้นคือธนาคารกรุงไทย ด้วยนโยบายสนับสนุนการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองทำให้ธนาคารกรุงไทยออกสินเชื่อกู้ซื้อบ้าน/คอนโด หรือแม้กระทั่งสินเชื่อกู้สร้างบ้านออกมาหลากหลายรูปแบบด้วยกันเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนอยากมีบ้านได้อย่างครอบคลุม ทั้งนี้ อย่าลืมศึกษากู้sme (เพิ่มเติม:
https://krungthai.com/th/content/sme/loan) หรือ
กู้เงินsmeไว้ด้วยนะ
ที่มาข้อมูล